Journey
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 ทางอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้จัดงานแถลงข่าว “สืบสาน...สีสัน...สายเส้น เบญจรงค์ดอนไก่ดี ครั้งที่ 7” ขึ้น ณ โฮมสเตย์อุไรเบญจรงค์ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดีโดยได้รับเกียรติจาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร (นายประภัสสร์ มาลากาญจน์) ท่านพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร (นายอุดม ศรีสมทรง) ท่านผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดสมุทรสงคราม (นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์) นายอำเภอกระทุ่มแบน (นายวิรัตน์ ไชยสิทธิ์) ท่านนายกเทศมนตรีตำบลดอนไก่ดี (นายวิชัย แตงเอี่ยม) ร่วมกล่าวเปิดงานในการแถลงข่าวในครั้งนี้
นางอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม (สมุทรสาคร สมุทรสงคราม) เปิดเผยว่าจังหวัดสมุทรสาคร เทศบาลตำบลดอนไก่ดี สำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรสาคร ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม และกลุ่มชุมชนหมู่บ้านดอกนไก่ดี กำหนดจัดงาน “สืบสาน...สีสัน...สายเส้น เบญจรงค์ดอนไก่ดี ครั้งที่ 7” ระหว่างวันที่ 10 – 12 มีนาคม 2560 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ บริเวณย่านธุรกิจสร้างสรรค์ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี เป็นชุมชนชาวบ้านที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากวิทยากรชาวไทย – จีน โบราณ ซึ่งทางโรงงานเสถียรภาพผู้ผลิตเครื่องเบญจรงค์เก่าแก่ของจังหวัดสมุทรสาคร เชิญมาสอนลวดลายบนเครื่องถ้วยชาม ต่อมาในปี พ.ศ.2532 โรงงานฯประสบภาวะขาดทุนต้องปิดกิจการ เพื่อความอยู่รอดช่างเขียนลายเบญจรงค์จึงต้องรวมกลุ่ม โดยนำองค์ความรู้และทักษะการทำเครื่องเบญจรงค์มาประยุกต์ใช้ ภายใต้กลุ่มหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ด้วยรูปแบบลวดลายเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ เครื่องเบญจรงค์ที่นี่จึงได้รับการคัดสรร เป็นสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ จากความทุ่มเทส่งผลให้ในปี 2550 หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยว รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย จาก ททท.
นอกจากนี้ชาวชุมชนยังได้พัฒนาฝีมือการทำเครื่องเบญจรงค์ อย่างต่อเนื่องและประณีตสวยงาม จนได้รับการคัดเลือกเป็นย่านุรกิจสร้างสรรค์จังหวัดสมุทรสาคร โดยในปีนี้ยังคงสร้างสรรค์งานในรูปแบบผสมผสานระหว่างเครื่องเบญจรงค์ไทยกับ Lifestyle Modern ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และพลาดไม่ได้กับ Hightlight ของงาน “ชุดเบญจรงค์ลวดลายพิเศษ” ที่ทางคณะผู้จัดงานฯได้รังสรรค์ขึ้นมาจากแรงบันดาลใจ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ซึ่งจะจัดให้ชมภายในงานนี้เท่านั้น
โดยนำเสนอภาพเด็กน้อยก้มกราบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสื่อความหมายต่อความเมตตาของพระองค์ท่าน ที่มีต่อพสกนิกรในทุกชนชั้น ทุกเชื้อชาติ และทุกวัย โดยพระองค์ทรงก้มทอดพระเนตรเด็กน้อยด้วยสายพระเนตรที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ช่างได้เลือกใช้การลงสีทองบนพระสาทิสลักษณ์และเด็กน้อย เนื่องจากการใช้สีทองในเชิงช่าง “สีทอง” แทนค่าสีที่มีคุณค่าสูงสุดขิงงานเบญจรงค์ ด้านลาย “คลื่นน้ำ” โดยการนำแบบมาจากพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” แทนน้ำพระทัยดั่งน้ำทิพย์ที่หลั่งรดลงมายังผืนดินแก่พสกนิกรชาวไทย ใช้การเขียนลายเบญจรงค์แบบโบราณสมัยรัชกาลที่ 2
การลงลายแบบเบญจรงค์โบราณ เป็นศิลปะการเขียนลายเชิงช่าง ที่ไม่มีสถานที่ใดสืบสานงานด้านนี้มาก่อน เนื่องจากความยากของการลงสี เหลือเพียงครูช่างศิลป์ “อุไร แตงเอี่ยม” จากร้านอุไร เบญจรงค์แห่งหมู่บ้านเบญจรงค์ ตำบลดอนไก่ดี สมุทรสาครเท่านั้น
สำหรับการจัดงานครั้งที่ 7 นี้ เป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทั้งจังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงพาณิชย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคเอกชน ภาคท้องถิ่น โดยเฉพาะหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี และอื่นๆอีกหลายหน่วยงาน ปีนี้ภายในงานท่านจะไดพบกับ
- กิจกรรมแสดง/จำหน่าย เบญจรงค์ และสาธิตการเขียนลายเบญจรงค์
- กิจกรรมจำหน่ายสินค้าปลอดภัย สินค้าโรงงาน สินค้า OTOP ของจังหวัดสมุทรสาคร และสินค้าธงฟ้า เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน
- ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม และอื่นๆอีกมากมาย
การจัดงานทุกๆปี ก็มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม เลือกซื้อสินค้าภายในงานมากขึ้นเป็นลำดับ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาเที่ยวชมงาน “สืบสาน...สีสัน...สายเส้น เบญจรงค์ดอนไก่ดี ครั้งที่ 7”ระหว่างวันที่ 10– 12มีนาคม 2560 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ บริเวณย่านธุรกิจสร้างสรรค์ หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้จัดงาน และผู้สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดสมุทรสาครสืบต่อไป
คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย-จีน 2559จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจีน สถานเอกอัครราชทูตจีน สมาคมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศแห่งชาติจีน และสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์
โบสถ์คาทอลิกจันทบุรี หรือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ ถนนสันติสุข ตำบลจันทนิมิต เป็นโบสถ์ที่มีประวัติการก่อสร้างยาวนานถึง ๒๗๕ ปี ครั้งแรกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2254 บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี โดยคุณพ่อเฮิ้ตโตแลนติโน และบรรดาคาทอลิกชาวญวณ จนถึงปี พ.ศ. 2377 ได้มีการย้ายมาสร้างบนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจันทบุรีอันเป็นสถานที่ตั้งในปัจจุบัน โดยมิได้มีการบันทึกถึงสาเหตุของการย้ายแต่ประการใด
ท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร
เทศกาลดูผีเสื้อที่ปางสีดา เดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2559 ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้วเปิดป่าตะวันออกต้อนรับนักท่องเที่ยว แอบดูราชินีแห่งแมลง “ผีเสื้อ” กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ท่องเที่ยวได้ในทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมค่อนข้างน้อยและได้สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดและมีคุณค่าที่เราสามารถค้นพบได้ด้วยตนเองจากผืนป่าธรรมชาติมรดกโลก เขาใหญ่ – ดงพญาเย็น “อุทยานแห่งชาติปางสีดา-ตาพระยา” เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดสระแก้วในมุมมอง “เมืองผีเสื้อของผืนป่าตะวันออก” รวมทั้งกระจายรายได้ให้กับชุมชนและท้องถิ่น จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับอุทยานแห่งชาติปางสีดา สมาคมรักษ์ปางสีดา จัดเทศกาลดูผีเสื้อ...ปางสีดา ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - สิงหาคม 2559 ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว ผืนป่าตะวันออกเขตมรดกโลก “เขาใหญ่ – ดงพญาเย็น” อุทยานแห่งชาติปางสีดา – ตาพระยา อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครไม่มากนักใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง การเดินทางสะดวกสบาย ผืนป่าทั้ง 2 อุทยาน มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ และสัตว์นานาพันธุ์ เช่น ช้างป่า กระทิง เก้ง กวาง หมูป่า เสือ นกเงือก นกยูง รวมทั้งผีเสื้อหลากสีสันที่มีอยู่อย่างหนาแน่นโดยเฉพาะในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ของทุกปี
ปี 2559 ห้วงเวลาการจัดเทศกาลดูผีเสื้อที่ปางสีดา จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับอุทยานแห่งชาติปางสีดา ได้กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดสระแก้ว เพื่อนำไปสู่ความมุ่งหมาย “เมืองผีเสื้อของผืนป่าภาคตะวันออก” โดยมีกิจกรรมสนับสนุนการจัดเทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา อาทิ
- จัดกิจกรรมแถลงข่าวเปิดเทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา วันที่ 23 มิถุนายน 2559 ณ โป่งผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติปางสีดา
- กิจกรรมประกวดหุ่นผีเสื้อ ชมขบวนแห่หุ่นผีเสื้อ ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 เส้นทางบริเวณเขตอำเภอเมืองสระแก้ว
- พิธีเปิดงานเทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา วันที่ 9 กรกฎาคม 2559 ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา
- กิจกรรมเดิน – วิ่ง แบ่งเป็น Fun Run 3 กิโลเมตร และ Mini Marathon 10 กิโลเมตร เริ่มปล่อยตัวเวลา 06.00 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคม 2559
- กิจกรรมจักรยานเสือภูเขา พิชิตจุดชมวิวปางสีดา เริ่มปล่อยตัวเวลา 08.00 น. ของวันที่ 10 กรกฎาคม 2559
นักท่องเที่ยวจัดสรรวันว่างสัก 2 วัน จัดวางโปรแกรมเดินทางท่องเที่ยว ชมแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดสระแก้ว เริ่มต้นออกเดินทางแต่เช้าถึงอุทยานแห่งชาติปางสีดา พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ดูผีเสื้อ หยุดการเคลื่อนไหวสักนิดเพื่อชมความงามของแมลงปีกสวยแห่งผืนตะวันออกมีมากกว่า 400 สายพันธุ์ ชมน้ำตกงามนาม “ปางสีดา” และจุดชมวิว กม. 25
จากนั้น ขับรถมุ่งหน้าสู่อ่างเก็บน้ำพระปรง รับประทานอาหารเมนูปลา ยามบ่ายๆ แอบดูนกน้ำ ตามเส้นทางนกงู “นกอ้ายงั่ว” และฝูงนกนานาชนิดที่ยืนพักผ่อนตากปีกบนต้นไม้ใหญ่ภายในอ่างเก็บน้ำพระปรง ช่วงเย็นแวะเวียนไปแอบดูกระทิง “อุทยานแห่งชาติตาพระยา” เข้าที่พัก จะเลือกพักแบบแอบอิงธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติตาพระยามีพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ และบ้านพักรับรอง หรือจะเลือกพักสบายๆ สไตล์โรงแรม/รีสอร์ท ภายในตัวเมืองสระแก้วหรืออรัญประเทศ ก็มีให้เลือกสรรหลากหลายรูปแบบ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
อุทยานแห่งชาติปางสีดา โทร. 0-3724-7948, 081-862-1511
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลและขอรับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงก่อนเดินทางได้ที่ ททท. สำนักงานนครนายก โทร. 0-3731-2282, 0-3731-2284 ตั้งแต่เวลา 08.30 –16.30 น. เปิดบริการทุกวันหรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.tat8.com , www.facebook.com/tatnayokfans
จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ภาครัฐและเอกชน จัดเทศกาลล่องแก่งหินเพิง เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2559 จัดกิจกรรม “เปิดเทศกาลล่องแก่งหินเพิง ครั้งที่ 20” ในวันที่ 20 - 24 กรกฎาคม 2559 ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 10 - 13 มิถุนายน 2559 จังหวัดกาญจนบุรีได้จัดงาน สานสัมพันธ์ ไทย – เมียนมา 2559 ณ บริเวณสามแยกบ้านน้ำพุร้อน กาญจนบุรีสู่ทวาย ปี 2559
ปีนี้ได้มีการจัดประกวดสาวงาม โดยใช้ชื่อในการประกวดว่า “มิสแกรนด์ไทยแลนด์”โดยผู้อำนวยการกองประกวด มิสแกรนด์ กล่าวว่า ในปีนี้ทางกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการค้นหาสาวงามผู้เข้าประกวด โดยได้มอบหมายให้ตัวแทนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ทำการคัดเลือกและจัดการประกวดขึ้นภายในจังหวัดของตนเอง และให้ใช้ชื่อตัวแทนสาวงามว่า มิสแกรนด์จังหวัด ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างมูลค่าความนิยมของสาวงามผู้เข้าร่วมประกวดในเวที มิสแกรนด์ให้กว้างขวางมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์และสร้างความภาคภูมิใจให้ผู้คนในจังหวัดอีกด้วย
เมื่อวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2558 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดนครนายก ได้นำคณะสื่อมวลชนลงเรือหางยาวสำรวจแหล่งท่องเที่ยว บริเวณด้านบนอ่างเก็บน้ำ เขื่อนขุนด่านปราการชล
เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ Journey ได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงานวันอัฏฐมีบูชาที่ วัดบรมธาตุทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นประเพณีการถวายพระเพลิงพระบรมศพจำลอง
โดยประเพณีนี้มีมาแต่เมื่อใดไม่ปรากฏ ในปัจจุบันประเพณีนี้ได้รับการสนับสนุนจากทางหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน โดยจัดเป็นงาน "วันอัฏฐมีบูชารำลึก เมืองทุ่งยั้ง" ณ วัดบรมธาตุทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประจำทุกปี
งานประเพณีอัฐมีบูชา เป็นพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง ซึ่งตามพุทธประวัติ จัดขึ้นหลังวันวิสาขบูชา ๘ วัน กล่าวคือในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เป็น “วันวิสาขบูชา” และวันแรม ๘ ค่ำเดือน ๖ เป็น “วันอัฐมีบูชา”
งานประเพณีอัฐมีบูชานับเป็นงานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นที่สำคัญของชาวอุตรดิตถ์ ที่มีการจัดงานสืบต่อกันมาช้านานกว่า ๕๐ ปี มีเพียงไม่กี่แห่งที่ยังมีการรักษาประเพณีนี้ไว้ เป็นการน้อมจิตรำลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนพระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป และเป็นความเชื่อของพุทธศาสนิกชนว่าหากมีโอกาสร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลองจะได้รับอานิสงส์ผลบุญมาก
สำหรับกิจกรรมภายในงานวันอัฐมีบูชานั้น ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา มีพิธีเวียนเทียน เนื่องในวันวิสาขบูชา รอบพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ขบวนแห่น้ำสรงพระราชทาน พิธีสรงน้ำพระบรมธาตุพระราชทาน พิธีแสดงพระธรรมเทศนา ส่วนในวันที่ ๒ – ๘ มิถุนายน ๒๕๕๘ มีกิจกรรมลานเทศน์ - ลานธรรม การแสดงพระธรรมเทศนาทุกวัน
และสำหรับในวันสุดท้ายคือวันที่ ๙มิถุนายน ๒๕๕๘ซึ่งเป็นวันอัฐมีบูชา ได้มีพิธีแห่ผ้าห่มพระบรมธาตุพระราชทาน พิธีสลากภัต และมหรสพสมโภช มวยพื้นบ้าน และในช่วงเย็นมีพิธีห่มผ้า “พระบรมธาตุทุ่งยั้ง” ประดับพระปรมาภิไธย “ส.ธ.” พระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หลังจากนั้นมีการแสดงแสงเสียงที่แสดงเรื่องราวของพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง
โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก นายวีรชัย ภู่เพียงใจ รองผู้ว่าการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีวันอัฎฐมีบูชา และนางธนัญญา เชิดโฉม ผู้ช่วยอำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ได้เข้าร่วมงานประเพณีอัฐมีบูชาในครั้งนี้ด้วย
ประวัติพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในพุทธประวัติ
พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีขึ้นในวันที่ ๘ หลังจากพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จปรินิพพานใต้ต้นสาละในราตรี ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ โดยพวกเจ้ามัลลกษัตริย์จัดบูชาด้วยของหอม ดอกไม้ และเครื่องดนตรีทุกชนิด ที่มีอยู่ใน เมืองกุสินาราตลอด ๗ วัน แล้วให้เจ้ามัลละระดับหัวหน้า ๘ คน สรงเกล้า นุ่งห่มผ้าใหม่ อัญเชิญพระสรีระไปทางทิศตะวันออก ของพระนคร เพื่อถวาย พระเพลิง
มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า
พวกเจ้ามัลละถามถึงวิธีปฏิบัติพระสรีระกับพระอานนท์เถระ แล้วทำตามคำของพระเถระนั้นคือ ห่อพระสรีระด้วยผ้าใหม่แล้วซับด้วยสำลี แล้วใช้ผ้าใหม่ห่อทับอีก ทำเช่นนี้จนหมดผ้า ๕๐๐คู่ แล้วเชิญลงในรางเหล็กที่เติมด้วยน้ำมัน แล้วทำจิตกาธานด้วยดอกไม้จันทน์ และของหอมทุกชนิด จากนั้นอัญเชิญ พวกเจ้ามัลละระดับหัวหน้า ๔ คน สระสรงเกล้า และนุ่งห่มผ้าใหม่ พยายามจุดไฟที่เชิงตะกอน แต่ก็ไม่อาจให้ไฟติดได้ จึงสอบถามสาเหตุ พระอนุรุทธะ พระเถระ แจ้งว่า "เพราะเทวดามีความประสงค์ให้รอพระมหากัสสปะ และภิกษุหมู่ใหญ่ ๕๐๐ รูป ผู้กำลังเดินทางมาเพื่อถวายบังคมพระบาทเสียก่อน ไฟก็จะลุกไหม้" ก็เทวดา เหล่านั้น เคยเป็นโยมอุปัฏฐากของพระเถระ และพระสาวกผู้ใหญ่มาก่อน จึงไม่ยินดีที่ไม่เห็นพระมหากัสสปะอยู่ในพิธี และเมื่อภิกษุหมู่ ๕๐๐ รูปโดยมีพระมหากัสสปะเป็นประธานเดินทางมาพร้อมกัน ณ ที่ถวายพระเพลิงแล้ว ไฟจึงลุกโชนขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครจุด
ต้องขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดแพร่ สำหรับในปีหน้าหากเพื่อนๆต้องการทราบข้อมูลในการเดินทางมาร่วมพิธีวันอัฎฐมีบูชา สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง โทร. ๐ ๕๕๘๑ ๖๖๕๒, ๐๘ ๔๔๙๓ ๙๙๗๒ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ โทร. ๐ ๕๕๔๐ ๓๐๙๓ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์โทร. ๐ ๕๕๔๑ ๒๗๒๙ สอบถามข้อมูลการเดินทาง และการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทรศัพท์ ๐ ๕๔๕๒ ๑๑๒๗