ตอน ล่องแพชมวิวกุ้ยหลินเมืองไทยกับสำนักการโยธา กรุงเทพ Featured

  • Wednesday, 20 May 2015 15:58
  • Published in Memo
  • Read 7225 times

เป็นทริปที่ 2 ที่ Journeyได้มีโอกาสรับใช้พี่ๆ สำนักการโยธา กรุงเทพ สำหรับทริปนี้เราจะเดินทางไปชมความงดงามของทัศนียภาพเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา แต่สวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบาย จนได้ ชื่อว่า กุ้ยหลินเมืองไทยกันที่ จ. สุราษฎร์ธานี สำหรับทริปนี้ เราออกเดินทางกันในเวลากลางคืน 2 ทุ่ม โดยประมาณ เพื่อที่จะเดินทางไปถึง จ.สุราษฎร์ธานี ในเวลาเช้า (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง)เราปล่อยให้พี่ๆพักผ่อนกันก่อนดีกว่าค่ะ ^^

 

หลังจากนั่งรถมาแบบยาวๆ เราก็เดินทางมาถึง จ.สุราษฎร์ธานี แวะปั๊ม ปตท. เพื่อให้พี่ๆได้ผ่อนคลายอิริยาบถ และล้างหน้าแปรงฟัน จากนั้น Journey แวะพาพี่ๆไปรับประทานอาหารเช้า เช้านี้เราทานโจ๊ก และชากาแฟ กันที่ตลาด ระหว่างทานอาหารเช้า มีหลวงพ่อเดินบิณฑบาตมาพอดี พี่ๆเลยขอแวะใส่บาตรทำบุญJourneyก็ขอใส่ด้วยคนค่ะ

อิ่มท้องอิ่มบุญกันเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาเดินทางไปชมความสวยงามของ เขื่อนรัชชประภา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก จ. สุราษฎร์ธานี เช้านี้ช่างโชคดีจริงๆค่ะ เพราะหมอกลงเยอะมากๆ ทำให้อากาศเย็นสบาย พอแดดเริ่มออกหมอกจากลงก็ จะพบกับความงดงามของตัวเขื่อนที่มีหมอกจากๆลอยอยู่เหนือภูเขา ช่างเป็นภาพที่ดูแล้วงดงามจริงๆค่ะ 

จากนั้นก็ได้เวลาลงเรือ โดยมีคุณแบงค์ ไกด์ท้องถิ่นของเรา รออยู่ที่ท่าเรือเทศบาล เขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งทริปนี้คุณแบงค์จะเป็นคนขับเรือพาเราเดินทางไปยังที่พัก และพาเราล่องเรือชมวิวตลอดทั้งทริป พร้อมแล้วลงเรือกันเลยดีกว่าค่ะ

จุดแรกที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยวกันนั่นก็คือ ถ้ำปะการัง การที่จะเดินทางไปยังถ้ำปะการัง เราจะต้องเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทางก็จะเป็นทางเดินป่า ทางลาดชันสลับกันไป แค่ 1 กิโลแต่ก็อย่าดูถูกนะคะ เรียกเหงื่อไม่ใช่น้อย เพราะฉะนั้นก่อนออกเดินทางเราแจกน้ำพี่ๆคนละ 1 ขวด ไว้ให้ดื่มระหว่างทาง ได้น้ำครบทุกคนแล้วออกเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ ระหว่างทางก็จะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สองข้างทาง หากเหนื่อยเราก็แวะพักถ่ายรูปเล่น

 

ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงจุดต่อแพไม้ไผ่ไปกันเป็นที่เรียบร้อย เพื่อที่จะล่องแพไม้ไผ่ไปยัง ถ้ำปะการัง ระหว่างขึ้นแพพี่ๆของเราแอบไปเห็นปลาหมอที่ชาวบ้านจับไว้ ก็เลยสั่งซื้อไปรับประทาน ล่องแพมาประมาณ 20 นาที เราก็เดินทางมาถึงถ้ำปะการัง ภายในถ้ำค่อนข้างมืด แต่เรามีแสงไฟจากพี่ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยช่วยส่องทางให้เราเดินได้อย่างสะดวกค่ะเมื่อเข้ามาในถ้ำก็จะพบกับความงดงามของหินงอกหินย้อย แต่ที่พิเศษก็คงจะเป็นหินงอกหินย้อย ทีรูปร่างคล้ายกับปะการัง จนถ้ำให้เป็นที่มาของชื่อ ถ้ำปะการัง นอกจากนี้ยังมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ เช่น ช้าง นกฮูก ฯลฯ หลังจากชมความงามของถ้ำปะการังเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาเดินทางไปยังแพที่พัก เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน

โดยใช้เส้นทางเดิมที่มา ล่องแพไม้ไผ่แล้วก็เดินทางออกมาเพื่อขึ้นเรือ นั่งเรือมาประมาณ 40 นาที ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงแพที่พัก สำหรับคืนนี้เราพักกันที่ แพสมายเล่ย์ ใช้พลังงานกันไปเยอะท่าทางพี่ๆของเราคงจะเริ่มหิวกันแล้วหล่ะค่ะ ขอตัวนำปลาที่พี่ๆซื้อมาไปให้แม่ครัวทำอาหารเพิ่มก่อนนะคะ

หลังจากอิ่มกับมื้อกลางวันแล้ว ก็เป็นเวลาที่พี่ๆทุกคนรอคอย  เพราะได้ข่าวว่าพี่ๆอยากจะโดดน้ำกันตั้งแต่นั่งเรือมาแล้วค่ะ เราปล่อยให้พี่ๆได้พักผ่อน ว่ายน้ำ พายเรือแคนู ส่วน Journey ขอตัวไปเก็บภาพพี่ๆตอนเล่นน้ำก่อนนะคะ ^^

ตอนนี้พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้า Journey พาพี่ๆล่องเรือมาชมพระอาทิตย์ตกดิน และหากโชคดีเราอาจจะได้เจอสัตว์ต่างๆออกมาหาอาหารในเวลากลางคืน และเราก็ได้เจอกับเจ้าหมูป่ากลุ่มหนึ่ง ออกมาหาอาการพอดี มีลูกตัวน้อยน่ารักอยู่ข้างๆ ช่างน่ารักจริงๆ ชมวิวเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาเดินทางกลับที่พัก เพื่อรับประทานอาหารค่ำ สำหรับคืนนี้ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ

เช้านี้เราตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และเก็บสัมภาระ ลงเรือเดินทางแวะให้อาหารปลากันที่ แพนางไพร ก่อนอำละจากเขื่อนเชี่ยวหลาน ก็ต้องถ่ายภาพหมู่เพื่อเป็นที่ระลึก

จากนั้นไปชมแฝดคนละฝาของกุ้ยหลิน เมืองจีน หรือที่เรียกกันว่า เขาสามเกลอ เขาหินปูนสามแท่ง ที่อยู่ท่ามกลางนํ้าใสสีเขียวฟ้าสวย รอให้เราไปเยี่ยมชม และถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก

จากนั้นกลับสู่ท่าเรือเพื่อขึ้นฝั่ง เพื่อเดินทางไปสักการะ พระบรมธาตุไชยา  ซึ่งเป็นพุทธสถานที่มีความงดงาม และสำคัญ ของชาวไทย และชาวสุราษฎร์ธานี อิ่มบุญเป็นที่เรียบร้อยได้เวลาแวะรับประทานอาหารกลางวัน มาภาคใต้ทั้งทีก็ต้องแวะชิมข้าวแกงชาวใต้ รสชาติจัดจ้านอย่าบอกใครเชียวค่ะ หลังจากอิ่มกับมื้อกลางวัน ก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนกลับแวะซื้อของฝากกันที่ ร้านสาหร่าย

 

 

ต้องขอขอบคุณพี่ๆ สำนักการโยธา กรุงเทพ ที่ไว้วางใจให้ Journey ได้มีโอกาสรับใช้นำพาไปท่องเที่ยวเป็นครั้งที่ 2

                                            

 

15 – 17 พ.ค. 58

Rate this item
(0 votes)

Leave a comment

Make sure you enter the (*) required information where indicated. HTML code is not allowed.