ภาคอีสาน เป็นอีกหนึ่งภาคที่มีการจัดงานเทศกาลวันสงกรานต์ที่รื่นเริง ไม่แพ้ภาคอื่นของประเทศไทย ดังเช่น ประเพณีสงกรานต์วัดไชยศรี บ้านสาวะถี จังหวัดขอนแก่น ที่ชาวบ้านยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้านให้ได้สืบสานปฏิบัติกันมาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกันทำนุบำรุงสิมโบราณอายุ 113 ปี ไว้ได้อย่างดี โดยมีกิจกรรมตามวิถีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ อันได้แก่ การอัญเชิญพระพุทธรูปลงสรงน้ำ พิธีเสียเคราะห์ กิจกรรมแห่ดอกไม้และพระพุทธรูปเก่าแก่
ในพิธีการเสียเคราะห์ที่วัดไชยศรีนั้น จะต้องมีเครื่องสังเวย หรือ เครื่องเสียเคราะห์ หรือ เลี้ยงเคราะห์ เป็นการจัดเครื่องสัการะเพื่อบูชาพระเคราห์ให้หายเคราะห์ สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้คือ เทียนตามแบบโบราณกำหนด และสิ่งของอื่นๆ เช่น ข้าวดำ ข้าวแดง ข้าวเหลือง ข้าวตอก ดอกไม้ น้ำส้มป่อย ทุ่งช่อ ทุ่งชัย ฝ้ายแดง ฝ้ายดำ ฝ้ายขาว ฝ้ายเหลือง ด้ายสายสิญจน์รอบโทง เป็นต้น
การประกอบพิธีกรรมนี้ ชาวบ้านสาวะถี จะร่วมกันประกอบพิธีกรรมที่ที่สิม หรือโบสถ์วัดไชยศรี และมีพิธีเอาพระพุทธรูปลงสรงน้ำตามแบบประเพณีสงกรานต์อีกด้วย
ประเพณีสงกรานต์ที่ วัดศรีโพธิ์ชัย (บ้านแสงภา) จังหวัดเลย ทุกเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีการแห่ต้นดอกไม้ โดยแต่เดิมจะมีการนำดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัย ต่อมาได้มีการจัดเป็นพานพุ่ม พัฒนามามาจนเป็นต้นดอกไม้ขนาดใหญ่ ชาวบ้านมีความเชื่อว่า การที่ได้นำดอกไม้มาบูชาพระรัตนตรัยนั้น จะทำให้อยู่ดีมีสุขฝนตกต้องตามฤดูกาล ทำให้สวนไร่นาอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองมีความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ วัว ควาย สัตว์เลี้ยงต่างๆ ขยายดอกออกผลสมบูรณ์ เกิดเป็นสิริมงคลแก่ทั้งตนเอง และผู้อื่น
เทศกาลแห่ต้นดอกไม้มีการแห่ทุกปี เริ่มจากวันสรงน้ำพระพุทธรูปและจะมีการแห่ต้นดอกไม้ทุกคืนวันพระ ตลอดเดือนเมษายนของทุกปี การแห่ต้นดอกไม้ของชาวตำบลแสงภา ต้องแห่ตอนกลางคืน ราว 1 ทุ่ม ถึง 3 ทุ่ม และต้องมาแห่ที่วัดรอบพระอุโบสถเท่านั้น โดยต้องแห่ให้ครบสามรอบ โดยรอบที่ 1 แห่เพื่อบูชาพระพุทธ รอบที่ 2 เพื่อบูชาพระธรรม และรอบที่ 3 เพื่อบูชาพระสงฆ์ เมื่อทำการแห่จนครบสามรอบแล้ว ต้องวางต้นดอกไม้ทุกต้นไว้รอบพระอุโบสถ เพื่อบูชาพระรัตนตรัยตลอดทั้งคืน รุ่งเช้าชาวบ้านจะช่วยกันนำต้นดอกไม้ออกจากวัด ถ้าต้นไหนยังแข็งแรง ไม่เสียรูปทรง สามารถที่จะนำมาเปลี่ยนดอกไม้ใหม่ แล้วนำไปแห่ในคืนต่อไปได้อีก
การแห่ต้นดอกไม้นั้น ผู้หามต้องโยกประกอบจังหวะให้ต้นดอกไม้หมุนซ้าย ขวา ตามจังหวะเสียงกลอง ฆ้อง ฉิ่ง ฉาบ ที่บรรเลงประกอบจนกว่าจะครบ 3 รอบ และภายในต้นดอกไม้นั้นจะต้องติดเทียนไข และจุดไฟเพื่อให้เกิดแสงสว่างด้วยทุกต้น
โดยปกติแล้ว การแห่ต้นดอกไม้ในเทศกาลสงกรานต์ นั้น จะทำกันเกือบทุกวัดในจังหวัดเลย และทุกวัดจะมีความเชื่อที่คล้ายคลึงกัน แต่ต้นดอกไม้ของตำบลแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย นั้น จะมีลักษณะเด่นกว่าทุกวัด คือ มีขนาดต้นใหญ่และสูงกว่าทุกวัด การแห่ต้องโยกให้หมุนตามจังหวะกลองอย่างสวยงาม และสนุกสนาน
ประเพณีแห่ต้นดอกไม้บ้านอาฮี อำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีการจัดกิจกรรมประเพณีแห่ดอกไม้ที่น่าสนใจ ในเทศกาลวันสงกราต์
โดยชาวบ้านจะร่วมตัวกันทำต้นดอกไม้เพื่อบูชาต่อพระรัตนตรัย ต้นดอกไม้บ้านอาฮี จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก รูปทรงจะเหมือนกับตัวขุนในหมากรุกไทย ความสูงก็ประมาณไม่เกิน 2 เมตร 4 คนแบก แบบสบายๆ แต่จะเน้นที่การประดับตกแต่งดอกไม้
ดอกไม้ที่นำมาตกแต่งก็จะหาเอามาจากที่มีอยู่ในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นดอกคูน ว่าน 4 ทิศ ชาวบ้านจะไปร่วมตัวกันที่วัดเมืองตูมธรรมาราม ต้นดอกไม้ทั้งหมดประมาณ 20 ต้น เมื่อได้เวลาประมาณไม่เกินบ่าย 2 โมง ขบวนแห่ต้นดอกไม้ก็จะเริ่มเคลื่อนขบวนไปตามถนน ผ่านเขตชุมชนที่มีชาวบ้านคอยชื่นชมความสวยงามของต้นดอกไม้ตลอดระยะทาง 3 กิโลเมตรก่อนจะเข้าไปที่วัดศิริมงคล
ตลอดระยะทาง 3 กิโลเมตรถึงแม้ว่าจะผ่านอากาศร้อนระอุ แต่ชาวบ้านกลับมีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใจ ตลอดสองข้างทางมีการสาดน้ำตลอดเวลา เพื่อให้คลายความร้อน เมื่อถึงลานวัดศิริมงคลก็จะแห่ต้นดอกไม้รอบอุโบสถ แล้วนำต้นดอกไม้มาวางเรียงกันเพื่อกล่าวคำถวายต่อพระรัตนตรัยพร้อมๆ กันเป็นอันเสร็จพิธี
ปิดท้ายภาพความสนุกของเทศกาลวันสงกรานต์ของภาคอีสานกันที่ถนนเชียงคาน ที่ถนนเชียงคานจัดเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่มีการเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ให้ Journey ได้เดินทางไปเก็บภาพบรรยากาศประเพณีวันสงกรานต์ของภาคอีสาน มาฝากเพื่อนๆ นอกจากประเพณีสงกรานต์แล้ว ภาคอีสานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆอีกมากมาย วันหยุดหน้าอย่าลืมเดินทางมาเที่ยวกันนะคะ