โดยเส้นทางแรก กรุงเทพฯ-นครปฐมทริปนี้เดินทางแบบ เช้าไป - เย็นกลับ โดยออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพงเวลา๐๘.๓๐ โดยประมาณ ระหว่างที่รถไฟเคลื่อนขบวนเราจะได้ยินเสียงรถไฟดัง ปู้นๆๆๆ สร้างความเพลิดเพลินให้กับการเดินทางในครั้งนี้ยิ่งนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชั่วโมง รถไฟก็เดินทางมา ถึงสถานีรถไฟนครปฐม โดยมี นายสมชายชมพูน้อย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ภูมิภาคภาคกลาง) รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สถานีสถานีรถไฟนครปฐม
จากนั้นพาคณะนักท่องเที่ยวชมตลาดน้ำลำพญาล่องเรือชมแม่น้ำท่าจีน ต่อด้วยนมัสการพระสรีระศพของหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จากนั้นเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทงชมขบวนแห่นางนพมาศ ประกวดหนูน้อยนพมาส ประกวดกระทงและโคมลอย การละเล่นพื้นบ้าน การจุดพลุและไฟพะเนียง จากนั้นพาทุกท่านเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯโดยรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้ราคา เพียง ๙๙๐ บาท เท่านั้น
เส้นทางที่ ๒ กรุงเทพฯ-นครปฐม-ราชบุรีหลังจากนำคณะลงที่สถานีรถไฟนครปฐม จะเดินทางต่อด้วยรถบัสปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่จังหวัดราชบุรี นำนักท่องเที่ยวเข้าสู่ที่พัก “อ้อมกอดขุนเขา”จังหวัดราชบุรี หลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อย ออกเดินทางสู่ ตลาดน้ำ Venetoเพื่อร่วมกิจกรรมประเพณีลอยกระทงเทียน ท่ามกลางขุนเขาในคืนพระจันทร์เต็มดวง ถือเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่น่าสัมผัสอีกมุมหนึ่งของสวนผึ้งเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีการรวมตัวของคนอาร์ตมาออกร้านให้ได้ช้อปเพลิน เที่ยวสนุกในสไตล์อิตาลีมากกว่า ๖๐ ร้าน หลังจากนั้นพาท่านกลับเข้าที่พัก เตรียมตัวสัมผัสเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในเช้าวันรุ่งขึ้น
โดยเดินทางไปที่ ซินเนอรี่ วินเทจ ฟาร์มชมฟาร์มแกะและให้อาหารแกะ จากนั้นเดินทางสู่ บ้านหอมเทียนเป็นร้านเทียนหอมทำมือ การทำเทียนที่นี่ได้มีการเพิ่มสีสันและรูปแบบเก๋ๆ ต่างๆมากมายให้เลือกชมและซื้อติดไม้ติดมือเป็นของที่ระลึกด้วยก็ได้ จากนั้นเดินทางต่อ ไปยังจังหวัดนครปฐมสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ที่อำเภอนครชัยศรี “วู๊ดแลนด์ เมืองไม้” ชมความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมไม้แกะสลัก ที่สะท้อนถึงความเป็นอยู่ของชาวไทยในอดีต ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกจากทุกภาคของประเทศไทย รวบรวมไว้ที่นี่อีกด้วย สำหรับทริปนี้ราคาท่านละ ๕,๙๐๐ บาท
สำหรับท่านที่พลาดโอกาส หรือสนใจเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟหัวรถจักรไอน้ำขบวนพิเศษนี้ ท่านสามารถสำรองที่นั่งร่วมขบวนเส้นทาง กรุงเทพฯ – ฉะเชิงเทรา “นั่งรถไฟ เที่ยวเมืองไทย ไปบอกรักพ่อ”โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)โทร ๑๖๙๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง หรือ www.facebook.com/pr.railway