บอกเลยว่าครบทุกรส ทั้งดื่มด่ำกับธรรมชาติ เล่นน้ำทะเล เดินตลาดช้อปปิ้ง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชมวิถีชุมชน ทดลองสานใบมะพร้าว และทำขนมไทยอยากรู้ว่าไปจังหวัดไหน และที่ไหนบ้าง ตามไปชมกันเลยค่ะ
สถานที่แรกที่ Journey เดินทางไป คือ "วัดพลับพลาไชย" จ.เพชรบุรี วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมือราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในวิหารมีหนังใหญ่เรียงรายอยู่บนฝาผนังให้เราได้ชม
หนังใหญ่อายุเก่าแก่ ที่บรรจงสร้างอย่างประณีต มีทั้งหนังใหญ่จากหนังเสือ และหนังวัว
ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ที่มีหนังใหญ่อายุกว่าร้อยปีถูกเก็บรักษาอย่างดีจัดแสดงให้ได้ชม ด้านล่างเป็นห้องจัดนิทรรศการ เพื่อบอกเราเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชาวเมืองเพชร
ใกล้ๆกับวัดพลับพลาไชย สามารถเดินเล่นได้ที่ "ชุมชนริมน้ำคลองกระแชง" จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ บ้านมนัส จรรยงค์ ราชาเรื่องสั้นของเมืองไทย พิพิธภัณฑ์สมบัติแม่น้ำเพชร ชมวัตถุโบราณอายุเก่าแก่นับพันปี ไม่ว่าจะเป็น “หม้อน้ำ” รูปสลักนกยูงของชาวมอญ สมัยทวารวดี บ้านสะสมผลงาน มิตร ชัยบัญชา เดินเล่นถนนสตรีทอาร์ท ถ่ายรูปชิคๆ และลองชิมข้าวแช่เย็นๆคลายร้อน
จากนั้นก็ขับรถ ????ต่อไปที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มื้อเที่ยงJourney ฝากท้องที่ "ร้านรับลม" ร้านอาหารอร่อยพร้อมชมวิวทะเล เมนูให้เลือกมากมาย มาร้านนี้อิ่มอร่อยแน่นอนคะ ????
อากาศร้อนๆแบบนี้ก็ต้องไปพักเล่นน้ำคลายร้อนกันที่ "อ่าวมะนาว" แดดแรงดีจริงๆ น้ำใสน่าเล่นสุด
ที่อ่าวมะนาว มีเก้าอี้ผ้าใบให้นั่ง และสปีทโบ้ทให้เล่น รวมไปถึงที่พัก ร้านอาหารมีบริการครบครัน อากาศดีสดชื่นสุดๆ
ตอนเย็นได้เวลาไปเดินเล่น หามุมถ่ายรูปคูลๆที่ "สะพานสราญวิถี" สะพานสีแดงโดดเด่น แต่ดูแล้วน่าจะน้อยกว่าสีผม
ใกล้ๆกับสะพานก็จะมีถนนคนเดินของกิน ของใช้ ให้เดินช้อปกันอย่างเพลิดเพลิน กลับบ้านตัวเบา
แม้แต่เจ้าตัวนี้ก็มีขาย รู้มั้ยคะว่าตัวไรเอ่ย? ตัวนี้คือเจ้าฮิปโปแคระ น่ารักใช่มั้ยล่ะคะ
คืนนี้ Journeyพักที่ "ประจวบแกรนด์" ที่พักอยู่ใกล้กลับถนนคนเดินสราญวิถี สามารถเดินมาที่พักได้ และที่สำคัญเปิดระเบียงมาเห็นวิวทะเลด้วยนะคะ คืนนี้พระจีนทร์เต็มดวง สวยจัง
เช้านี้ Journeyไปช้อปปิ้งที่ "ด่านสิงขร" จุดจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของชาวไทยและชาวพม่า ที่นี่มีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ที่ทำจากไม้แกะสลัก ซึ่งเป็นงานฝีมือแฮนด์เมด (Hand Made) เหมาะสำหรับเป็นของใช้และตกแต่งบ้าน รวมถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินสีและพลอยพม่าสีสันสวยงาม เดินไปเดินมาก็ได้ผ้าขาวม้าไปฝากคุณพ่อ 1 ผืน
เดินไปเดินมาได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี มื้อนี้ Journeyเดินทางมาทานที่ "ครัวห้วยทราย" ร้านกว้าง มีหลายโซนให้นั่ง มีมุมสนามเด็กเล่นให้กับน้องๆหนูๆด้วยนะคะ นอกจากร้านนี้อาหารจะอร่อยแล้ว ยังข้าวเปล่าฟรีด้วยนะคะ ว้าววว!! เพิ่งจะเคยเจอร้านที่ข้าวฟรีใจดีจัง
หลังจากอิ่มเอม เดินทางต่อมาที่ "พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน" ชมสถาปัตยกรรมความงามของพระราชวังฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6)
ทริปนี้ Journey โชคดีสุดๆ ที่ได้มีโอกาสฟังการบรรยายของ อ.อารยะ ผู้ดูแลการบูรณะของพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน อาจารย์บรรยายสนุกมากๆ ได้รับความรู้ใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับการก่อสร้างพระราชวัง และยังได้ชมวิถีการซ่อมพื้นไม้ของพระราชวัง โดยการใช้ไม้เดิมมาซ่อมแซมให้ยังคงใช้ได้ แทนการรื้อทิ้ง ฟังอย่างเพลิดเพลิน อยากจะนอนที่นั่นแล้วให้อาจารย์บรรยายต่อให้ฟังไปเรื่อยๆจริงๆ
จากนั้นเดินทางต่อไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม พลาดไม่ได้กับการเดินเล่นที่ "ตลาดน้ำอัมพวา" ตลาดน้ำยามเย็นที่ให้เพื่อนๆได้เดินเล่นกันทั้งคืน ของกิน ของฝาก และร้านอาหารให้เลือกนั่งเยอะมากๆ
ส่วนคืนนี้ Journeyพักที่ "ชูชัยบุรี ศรีอัมพวา" ซึ่งที่พักอยู่ไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวา ที่พักมีจักรยานให้ยืม สำหรับขี่รถเล่นด้วยนะคะ และภายในที่พักยังมีเรือนไทยอายุ 100 ปี และลานศรัทธามีองค์พระศิวลึงค์หยกทองคำประดับเพชรที่สวยงามมาก
ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเที่ยวอีกหนึ่งที่ "บ้านริมคลองโฮมสเตย์" ที่บ้านริมคลองมีกิจกรรมให้ทำเยอะมากๆ แบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ ฐานแรกเป็นการทำน้ำตาลจากต้นมะพร้าว สาธิตตั้งแต่การปาด จนถึงกรรมวิธีในการทำน้ำตาลก้อน
ฐานต่อมา เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบในขนมไทย ฐานนี้ก็จะได้ลงมือทำขนมทานด้วยตัวเอง ซึ่งวันนี้ได้เรียนการทำขนมต้ม เริ่มตั้งแต่ขูดมะพร้าว นวดแป้งกันเลยทีเดียว
เสร็จแล้ว หน้าตาน่าทานมั้ยคะ ไม่อยากจะอวด ว่าอร่อยด้วยนะคะ
ฐานต่อมา ฐานจักรสานใบมะพร้าว ฐานนี้ Journey ชอบมาก ไม่น่าเชื่อว่าใบมะพร้าวจะสามารถสานเป็นสิ่งต่างๆได้มากมาย มีทั้งหมวก ตะกร้า พัด และสัตว์ต่างๆ ซึ่ง Journey ทำปูกับปลาตะเพียน สนุกมากๆ
ฐานต่อมาเป็นการทำ ผ้ามัดย้อมเปลือกมะพร้าว สีสันสวยงาม มีหลายลายให้ได้ทดลองทำกัน
ฐานสุดท้าย อันนี้ฟินสบายเท้าสุดๆ ด้วยการทำสปาเท้า ก่อนที่จะแช่ก็ต้องลงมือตำส่วนผสมต่างๆด้วยตัวเอง ประกอบไปด้วย ดอกเกลือ ขมิ้น ทานาคา และอโรม่า โดยเลือกกลิ่นตามใจชอบ ผสมเสร็จเราก็จะย่ำเท้าให้ส่สนผสมซึมเจ้าผิว ตากนั้นเทน้ำอุ่นใส่ และโรยดอกกุหลาบ ดาวเรือง มะนาว ผสมไปในน้ำ สบายเท้าสุดๆ
มื้อเที่ยงก็ฝากท้องที่บ้านริมคลองเลย ชอบสุดๆคงเป็นหอยลายผัดน้ำพริกเผา ของโปรด งั่มๆ ที่นี่น้ำเก๊กฮวย อร่อยมาก หอมและไม่หวานจนเกินไป มาแล้วห้ามลืมชิมน้ำเก๊กฮวยนะคะ
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ผู้สนันสนุนการเดินทางในทริปนี้