ทริปล่องเรือวิถีแห่งศรัทธา บูชาพญานาค ห่มผ้าพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ Featured

  • Saturday, 28 March 2015 14:28
  • Published in PR/News
  • Read 35357 times

 สำหรับทริปนี้ เราจะพาเพื่อนๆ  บินลัดฟ้าไปยังถิ่นแดนอีสาน เพื่อไปห่มผ้าพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ กันที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีพระธาตุ ประจำวันเกิดครบทั้ง 7 วัน ส่วนทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปไหว้พระธาตุประจำวันอะไรบ้าง อยากรู้ตามมาเลยค่ะ

ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที เราก็เดินทางมาถึง จังหวัดนครพนม พระธาตุองค์แรกที่เราจะเดินทางไปสักการะกัน นั้นก็เป็นประธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ ซึ่งเค้าบอกว่าคนเกิดวันศุกร์นี่จะหน้าตาดี (ชมตัวเอง อิอิ ^^)  วัดพระธาตุท่าอุเทน ตั้งอยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทรางสี่เหลี่ยม จำลองมาจากพระธาตุพนม แต่มีขนาดเล็กและสูงกว่าพระธาตุพนม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า รวมทั้งพระพุทธรูป และของมีค่าต่างๆ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายเอาไว้ พระธาตุองค์นี้มีสิ่งที่ตรงกับเทพประจำวันศุกร์ คือ  พระธาตุหันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ตรงกับทิศประจำวันของพระวันศุกร์ สำหรับผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้ จะได้รับอานิสงค์ ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ เพื่อความเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น คณะจึงได้นำผ้ามาห่มองค์พระธาตุ โดยก่อนจะห่มได้มีการทำพิธีสวดมนต์ นำโดยอาจารย์เอ๋ และเขียนชื่อลงบนผ้าที่จะนำไปห่มองค์พระธาตุ จากนั้นคณะก็สวดมนต์และเดินวนแห่ผ้ารอบองค์พระธาตุ 3 รอบก่อนจะนำผ้าไปห่มที่องค์พระธาตุ ทำบุญแล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจจริงๆค่ะ

 

หลังจากทำบุญแล้ว ก็รู้สึกว่าท้องจะเริ่มร้อง มื้อนี้เราไปทานอาหารกลางวันกันที่ ร้านปากน้ำไชยบุรี ซึ่งร้านอาหารอยู่ใกล้กับจุดชมวิวแม่น้ำสองสีบ้านไชยบุรี ทานอาหารไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำของแม่น้ำสองสี และทิวทัศน์ของฝั่งลาว อาหารอร่อย แถมบรรยากาศดีแบบนี้ ทำให้เจริญอาหารกันสุดๆ

หลังจากอิ่มจากอาหารกลางวันกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาเปลี่ยนพาหนะไปนั่งรถสกายแล็ป  เพื่อไปชมวัดและโบราณสถานที่สำคัญของริมน้ำของ โดยมี อ.พิชัย เสนจันทร์ฒิไชย เป็นผู้เล่าเรื่องราว และประวัติที่น่าสนใจตามสถานที่ต่างๆของชาวไชยบุรี

หลังจากที่ได้รับรู้ประวัติที่น่าสนใจของชาวไชยบุรีกันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางไปย้อนรอยตามรอยเท้าของสัตว์ในยุคดึกดำบรรพ์อย่างไดโนเสาร์ กันที่ แหล่งเรียนรู้ไดโนเสาร์ท่าอุเทน โดยได้รับเกียรติจาก นายปั่น ดงกันหา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพนอม กล่าวต้อนรับคณะ และเล่าถึงความเป็นมาของแหล่งเรียนรู้ไดโนเสาร์ท่าอุเทนให้เราได้ฟังกัน

 จากนั้นเดินทางสู่ วัดพุทธนิมิต ชมพระอุโบสถที่งดงาม และทำบุญไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมชมการก่อสร้างพระพุทธรูป หน้าตัก 9.99 เมตร สูง17เมตร ที่ประดิษฐานอยู่ริมฝั่งโขง

จากนั้นคณะได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดโครงการกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดนครพนม กิจกรรมท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงวัฒนธรรมประเทศเพื่อนบ้าน 19 – 21 มีนาคม 2558 ชมการแสดงพื้นบ้าน และพิธีการต้อนรับแบบพื้นเมือง ซึ่งชาวพื้นเมืองที่นี่เรียกกันว่า พิธีตุ้มโฮม หรือพิธีบายศีสู่ขวัญ นอกจากนี้ยังมีพิธีลอยเรือไฟโบราณจำลอง ที่ชาวอีสานเชื่อกันว่าเป็นพิธีลอยเคราะห์ ลอยโศกฝากไปกับแม่น้ำโขง โดยให้ตัดผม ตัดเล็บ เพียงเล็กน้อยใส่ลงไปในเรือ เพื่อเป็นการฝากสิ่งไม่ดีให้ลอยไปกับเรือไฟลอยเคราะห์ ลอยโศก เรียบร้อย คืนนี้คงจะฝันดีแน่นอนค่ะ

 เช้านี้เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อมารอ ตักบาตรข้าวเหนี่ยว กันที่ริมฝั่งโขง ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุ หลังจากที่ตักบาตรเรียบร้อย เราก็จะเข้าไปในวัดมหาธาตุ เพื่อสักการะ พระธาตุนคร ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ โดยเราจะตั้งจิตอธิษฐาน ร่วมกันถวายผ้าห่มองค์พระธาตุภายในพระธาตุนคร บรรจุพระอรหันตธาตุพระพุทธรูปทองคำ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้สักการะ จะได้รับอานิสงส์ให้มีบุญวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน

จากนั้นคณะก็ลงเรือ เพื่อประกอบพิธีบูชาพญานาค และขอขมาแก่แม่น้ำคงคา เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ให้แก่ชีวิต โดยมีท่านพราหมณ์มาทำพิธีให้ จากนั้นเรือก็ล่องไปตามลำน้ำโขง เพื่อชมทัศนียภาพงดงามสองฝั่งแม่น้ำโขง ระหว่างที่เรือล่องไปคณะก็จะได้รับฟังเรื่องราว ตำนานที่เล่าขานต่างๆที่น่าสนใจจาก อาจารย์เด่นชัย ไตรยะถา ระหว่างทางเรือก็จะแล่นผ่านสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 ที่มีสถาปัตยกรรมล้านช้างที่โดดเด่น และเมื่อเรือแล่นมาถึง พระพุทธบาทเวินปลา ซึ่งเป็นรอยพระบาทแห่งเดียวในโลกกลางลำน้ำโขงที่ชาวไทย – ลาว เคารพนับถือมาตั้งแต่โบราณ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับรอยไว้ คณะจึงพร้อมใจกันโปรยดอกไม้ ลงสู่ลำน้ำโขง และลอยบายศรีพญานาคลงสู่ลำน้ำโขง

จากนั้นคณะก็ขึ้นเรือจากเรือ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน มื้อนี้เราแวะทานกันที่ ร้านสามอนง ซึ่งเป็นอาหารไทยอีสาน โดยเฉพาะปลาส้ม แซบอย่าบอกใครเลยค่ะ

จากนั้นชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ซึ่งกำลังพัฒนาเป็นหนึ่งในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีโคตรบูรณ์ เมืองโบราณริมโขง บ้านหนองจันทน์ และชมจอมปลวกพญานาค ที่ วัดท่าบ้านหนองจันทน์จากนั้นมหัศจรรย์กับงานใบตอง ภูมิปัญญาท้องถิ่น กับหัตถศิลป์ถิ่นริมโขง ของชาวบ้านดอนนางหงส์ และสักการะพระธาตุมรุกขนคร พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ณ วัดมรุกขนคร

จากนั้นออกเดินทางสู่หมู่บ้านวัฒนธรรมไทกวน ชุมชนโบราณในอดีต ที่มีหน้าที่ดูแลและปกป้องพระธาตุพนมในอดีต พร้อมสักการะศาลปู่ตาแสงนาถ่อน และชมบ้านตีมีด ซึ่งเป็นอาชีพที่ถ่ายทอดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชมขบวนการผลิตมีดพร้า มีดดาบ และอุปกรณ์การเกษตร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา

จากนั้นเที่ยวชมถนนคนเดินของชาวจังหวัดนครพนม ชมหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ชิม ช็อป สินค้าพื้นเมืองต่างๆมากมายของชาวนครพนม

เช้านี้แวะซื้อของฝากกันที่ ร้านเหรียญทอง แวะซื้อหมูยอร้านเด็ดของจังหวัดนครพนม และของฝากอื่นๆอีกมากมาย จากกนั้นก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ คณะแวะสักการะพระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำของผู้ที่เกิดปีวอก ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เรามาตั้งจิตอธิษฐาน และถวายผ้าห่มองค์พระธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ก่อนออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

ต้องขอขอบคุณ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครพนม และบริษัท WIN WIN SMILE ที่อำนวยความสะดวก และจัดทริปดีๆแบบนี้ขึ้นมา แล้วพบกับทริปดีๆที่ Journey นำมาฝากเพื่อนๆในทริปหน้าค่ะ

 

 

 

Rate this item
(0 votes)

61 comments

  • Comment Link Margie Tuesday, 22 August 2017 04:42 posted by Margie

    It's really very difficult in this full of activity life to listen news on TV,
    therefore I only use the web for that reason, and take the
    most recent information.

Leave a comment

Make sure you enter the (*) required information where indicated. HTML code is not allowed.