ท่องเที่ยวสระแก้ว - ปราจีนบุรีไปกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Featured

  • Friday, 30 January 2015 02:35
  • Published in PR/News
  • Read 10809 times

วันนี้ Journeyและ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะพาเพื่อนๆเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆของจังหวัดสระแก้วและจังหวัดปราจีนบุรี

 พร้อมแล้วออกเดินทางไปกันเลย

สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาเพื่อนๆไปนั่นก็คือ โรงเรียนกาสรกสิวิทย์  แปลกใจใช่มั้ยคะว่าเรามาเที่ยวอะไรกันที่โรงเรียน นั่นก็เพราะว่าที่โรงเรียนแห่งนี้เป็น โรงเรียนสอนกระบือ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีไว้เพื่อฝึกเหล่านักเรียนกระบือทั้งหลาย ให้สามารถไถนา และทำงานด้านการเกษตรกรรม ร่วมไปถึงสอนผู้ที่ต้องใช้นักเรียนกระบือเหล่านี้ไปร่วมทำการเกษตร เพื่อให้มีความเข้าใจ และสามารถร่วมทำงานกับกระบือทั้งหลายได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพโดย โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วัตถุประสงค์สำคัญคือ ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย (โรงเรียนควาย) ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านการเกษตรที่เหมาะสมกับประชาชน อันจะเป็นการรื้อฟื้นภูมิปัญญาไทยในการทำนา โดยใช้แรงงานคนและโค กระบือ ให้สามารถไถนาและใช้งานด้านอื่นๆ ซึ่งกำลังจะหายไปจากสังคมไทย และต่อไปที่นี่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด สระแก้ว

นอกจากนี้ภายใน โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ยังมีร้านอาหารอยู่ภายในบริเวณโรงเรียน โดยมีชื่อที่เก๋ไก๋ว่า ร้านข้าวควายคะนอง หน้าตาน่าทานและรสชาติก็ไม่แพ้หน้าตาเลยคะ เราก็เลยฝากท้องสำหรับมือเที่ยงกันที่ร้านนี้เลย

หลังจากอิ่มอร่อยกันเป็นที่เรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อสู่ ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ก่อนจะถึงตัวถ้ำต้องเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะ 700 เมตร สองข้างทางก็ร่มรื่นเพราะเต็มไปด้วยต้นไม้ เดินดูวิวข้างทางไปเรื่อยเปื่อยเราก็เดินทางมาถึงทางเข้าถ้ำ บริเวณปากถ้ำเป็นลานหินกว้าง พอเข้าไปภายในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอก หินย้อย และมีการติดไฟสีภายในถ้ำ ยิ่งทำให้หินงอกหินย้อยเหล่านี้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

เดินดูความสวยงามของหินงอกหินย้อยจนเพลิน ท้องก็ร้องบอกได้เวลาอาหารเย็นอีกแล้ว วันนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พาไปทางข้าวต้มรอบดึก ร้านเจ๊ลั้งข้าวต้ม หากเพื่อนๆมีโอกาสแวะมาสระแก้วพลาดไม่ได้เลยนะคะสำหรับข้าวต้มร้านนี้ อิ่มขนาดนี้คืนนี้ต้องขอตัวไปนอนย่อยก่อนนะคะ ^^

เช้านี้เราออกเดินทางไปไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่ วัดนครธรรม หรือชื่อเดิมว่า เดิมมีชื่อว่า วัดสระลพ ภายในวัดมีหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นพระพุทธรูปโบราณนั่งขัดสมาธิสร้างด้วยปูนขาว มีชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์ โดยได้อัญเชิญหลวงพ่อขาวจากวัดร้างบ้านจิก มาเมื่อ พ.ศ. 2468 ในขณะอัญเชิญมีปรากฏการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้น พระภิกษุสงฆ์ได้เห็นน้ำพระเนตรของหลวงพ่อขาวไหลออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากวัดปมะดุลลาราชะมหาวิหาร เมืองรัตนปุระ ประเทศศรีลังกา และรอยพระพุทธบาทจำลองและพระสยามเทวาธิราชประดิษฐานอยู่ภายวิหารอีกด้วย

ไหว้พระขอพรกันเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลาออกเดินทางไปชมความงามของ ปราสาทสด๊กก๊อกธม โบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว และเป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ ปราสาทสด๊กก๊อกธม สร้างจำลองมาจากจักวาล ภายในมีสระว่ายน้ำล้อมรอบเป็นรูปตัวยูครึ่งซีก ปราสาทมีทางเข้าทางทิศตะวันออกที่เดียวเท่านั้น ตรงกลางภายในเรียกระเบียงคด จะเห็นประตูคุปุระชั้นใน ประตูแรกที่เข้ามารียกว่าประตูคุปุระชั้นนอก เสาที่อยู่ภายในเรียกว่าเสานางเรียก เกิดจากผู้หญิงบริสุทธิ์มายืนเรียงกันเพื่อโปรยดอกไม้ให้กษัตริย์ได้ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด นับเป็นอีกสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สวยงาม และควรค่าแก่การเรียนรู้อีกแห่งหนึ่ง

จากนั้นออกเดินทางต่อไปยัง เขาฉกรรจ์ ซึ่งเป็นเขาหินปูน เขาฉกรรจ์มีถ้ำที่สำคัญ คือ ถ้ำเขาทะลุ ภายในถ้ำมีถ้ำเล็กถ้ำน้อย อยู่มากถึง 12 แห่ง อาทิ ถ้ำหนุมาน ถ้ำมหาสิงห์ ถ้ำน้ำทิพย์ ถ้ำแก้วพลายชุมพล ซึ่งในถ้ำต่างๆเหล่านี้ ไม่เหมาะสำหรับการเที่ยวชม เพราะการเดินทางเข้าถึงลำบาก ส่วนมากถ้ำที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาชม คือ ถ้ำเขาทะลุ ซึ่งมีลักษณะเป็นช่องเขาสองด้านที่ทะลุหากัน ภายในมีรอยพระพุทธบาทจำลอง และประดิษฐานพระพุทธรูป เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล  เนื่องจากเป็นถ้ำที่มีความสงบ จึงกลายเป็นที่อาศัยของฝูงค้างคาวจำนวนมาก หากต้องการชมฝูงค้างคาว ต้องชมตอนเวลา 18.00 น. จะมีฝูงค้างคาวนับล้านๆตัว บินออกมาจากถ้ำเป็นสายยาว รับกับแสงพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงดงามของธรรมชาติ

ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว วันนี้เราไปทานอาหารกันด้วยบรรยากาศผ่อนคลาย นั่งฟังเพลงเบาๆกันที่ ร้านจันทร์มณี บรรยากาศดีแถมอาหารอร่อย คืนนี้ฝันดีแน่นอนค่ะ

เช้านี้เราจะไปนวดแผนไทยกันที่ โรงพยาบาลวัฒนานคร(สาขาแพทย์แผนไทย) ซึ่งที่โรงพยาบาลแห่งนี้ได้เปิดนวดแผนไทยมา 10 ปีแล้ว คนนวดผ่านการฝึกอบรมการยวดแผนไทยโดยตรงจากสาธารณสุขจังหวัด โดยมีอาจารย์จากกระทรวงสาธารณสุขมาสอนนวด

 

หลังจากนวดจนสบายตัวกันเป็นที่เรียบร้อย ออกเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ตะเกียงอยู่สุขสุวรรณ์ จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ เพื่อนๆจะพบกับตะเกียงจำนวนมาก ซึ่งมีแขวนอยู่ทุกๆที่  และที่นี่ก็มีตะเกียงให้เดินชมหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ตะเกียงเจ้าพายุ ตะเกียงไขลาน และตะเกียงอื่นๆอีกมากมายรวมไว้มากกว่า 10,000 ดวง ใครที่ไม่เคยเห็นตะเกียงสมัยเก่ารุ่นคุณปู่คุณย่า บอกได้เลยว่าต้องแวะมาชมที่ พิพิธภัณฑ์ตะเกียงอยู่สุขสุวรรณ์

จากนั้นเดินทางต่อไปยัง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดปราจีนบุรี เป็นพิพิธภัณฑสถานประเภทประวัติศาสตร์โบราณคดี ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมของโบราณวัตถุในภูมิภาคตะวันออก และจังหวัดใกล้เคียง อาทิ  ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี ตราดและระยอง โดยเน้นการจัดแสดงที่เมืองศรีมโหสถเป็นสำคัญ ภายในแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นล่าง จัดแสดงประวัติศาสตร์โบราณคดีเมืองปราจีนบุรี โบราณคดีเมืองนครนายกและนิทรรศการพิเศษ ส่วนชั้นบน จัดแสดงศิลปะโบราณคดีในประเทศไทย โบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ในภาคตะวันออก โบราณคดีใต้น้ำรวมทั้งเครื่องถ้วยสังคโลกที่พบใต้ทะเลจากบริเวณเกาะคราม จังหวัดชลบุรี

จากนั้นเราไปชมความงามของ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ตัวตึกมีสีเหลืองสไตล์ย้อนยุค เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของปราจีนบุรี สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2452 เป็นตึกที่เจ้าพระยาอภัยภูเบศรสร้างขึ้นโดยทรัพย์สินส่วนตัวในปี พ.ศ. 2452 เพื่อถวายเป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ไม่ทันได้เสด็จประทับพระองค์ก็เสด็จสวรรคตก่อน อย่างไรก็ตามที่นี่เคยใช้เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2455 รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ คราเสด็จมณฑลปราจีนบุรี ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  นอกจากนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทยอีกด้วย

ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เรายังแวะกันอีกหนึ่งที่ Abhaibhubejhr Day Spa หรือ สปาอภัยภูเบศ สปาแห่งนี้เปิดมาได้ประมาณ 3 เดือน สปามี 2 แบบ แบบแรก คือ แบบเพื่อสุขภาพ อาทิ นาดบำบัด นวดเท้า นวดน้ำมัน โดยใช้สมุนไพรเป็นหลัก ส่วนแบบที่สอง คือ แบบเพื่อความสวยงาม สปาหน้า ขัดพอกผิว โดยมีการทำท่าเจ้าเรือน ดูกรุ๊ปเลือดและธาตุของแต่ละคน ส่วนใหญ่คนนิยมทำสปาเพื่อความสวยงาม โดยเปิดให้บริการทุกวันพุธ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 20.00 น.

 

นอกจากนี้ภายใน Abhaibhubejhr Day Spa ยังมีร้านอาหารสมุนไพร และเครื่องดื่มที่ Journeyแนะนำให้เพื่อนๆต้องลอง คือ กาแฟหมามุ้ย และ สมูทตี้ใบหูเสือ ซึ่งจะช่วยเรื่องระบบทางเดินหายใจ แก้ไอ้ ส่วนอาหารแนะนำของที่นี่คือ  ปอเปี๊ยสดใบหัวเสือ และวาฟเฟิลข้าวกล้อง

 

ต้องขอของคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก ที่ได้พาไปชมสถานที่ต่างๆที่น่าสนใจของ จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี ทริปหน้าจะนำสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆมาฝากเพื่อนๆอีกนะคะ

 

 

 

Rate this item
(0 votes)

Leave a comment

Make sure you enter the (*) required information where indicated. HTML code is not allowed.